วันอังคารที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

มิลินทปัญหา แปล เมณฑกกัณฑ์ ปณามิตวรรค สัพพสัตตหิตผรณปัญหา

สัพพสัตตหิตผรณปัญหา

ปัญหาว่าด้วยการที่พระตถาคตทรงเผยแผ่ประโยชน์เกื้อกูลแก่สัตว์ทั้งปวงทั้งหลาย

***

 [๒] พระเจ้ามิลินท์ พระคุณเจ้านาคเสน พวกท่านกล่าวกันว่า พระตถาคตทรงขจัดความหายนะ ทรงจัดแจงแต่ประโยชน์แก่สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง และ (ท่านพระอานนท์) ยังกล่าวไว้อีกว่า เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสธรรมปริยาย อันมีอุปมาด้วยกองไฟ อยู่ โลหิตร้อน ๆ ก็ทะลักออกจากปากของภิกษุประมาณ ๖๐ รูป ดังนี้. พระคุณเจ้า พระตถาคต เมื่อทรงแสดงธรรมปริยายอันมีอุปมาด้วยกองไฟ ก็เป็นอันว่า พระตถาคตทรงขจัดประโยชน์ ทรงจัดแจงความหายนะแก่ภิกษุทั้งหลายประมาณ ๖๐ รูป

พระคุณเจ้านาคเสน ถ้าหากว่า พระตถาคตทรงขจัดความหายนะ ทรงจัดแจ่งแต่ประโยชน์แก่สัตว์ทั้งหลายจริงไซร้.  ถ้าอย่างนั้น คำที่ว่า เมื่อพระผู้มีพระภาคทรงแสดงธรรมปริยายอันมีอุปมาด้วยกองไฟอยู่ โลหิตร้อน ๆ ก็ทะลักออกจากปากของภิกษุประมาณ ๖๐ รูป ดังนี้ ก็ต้องผิด

หากว่า เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสธรรมปริยายอันมีอุปมาด้วยกองไฟอยู่ โลหิตร้อน ๆ ก็ทะลักออกมาจากปากของภิกษุประมาณ ๖๐ รูป จริงไซร้ ถ้าอย่างนั้น. คำที่ว่า พระตถาคตทรงขจัดความหายนะทรงจัดแจงแต่ประโยชน์แก่สัตว์ทั้งหลาย ดังนี้ ก็ต้องผิด

ปัญหานี้มี ๒ เงื่อน ตกถึงแก่ท่านแล้ว ขอท่านจงคลี่คลายปัญหานั้นเถิด

พระนาคเสน ขอถวายพระพร มหาบพิตร พระตถาคตทรงขจัดความหายนะ ทรงจัดแจงประโยชน์แก่สัตว์ทั้งหลายจริง เมื่อตรัสธรรมปริยายอันมีอุปมาด้วยกองไฟอยู่ โลหิตร้อน ๆ ก็ทะลักออกจากปากของภิกษุประมาณ ๖๐ รูป จริง ก็แต่ว่า ข้อที่โลหิตร้อน ๆ ทะลักออกจากปากของภิกษุประมาณ ๖๐ รูปนั้น มิได้มีเพราะการกระทำของพระตถาคต ทว่ามีเพราะการกระทำของภิกษุเหล่านั้นเองนั่นเทียว

 

พระเจ้ามิลินท์ พระคุณเจ้านาคเสน ถ้าหากว่า พระตถาคตไม่แสดงธรรมปริยายอันมีอุปมาด้วยกองไฟไซร้ ภิกษุเหล่านั้นจะมีโลหิตร้อน ๆ ทะลักออกจากปากหรือหนอ

พระนาคเสน ไม่หรอก มหาบพิตร แต่ว่า ภิกษุเหล่านั้นเป็นผู้ปฏิบัติมิชอบ พอฟังธรรมปริยายของพระผู้มีพระภาคเข้า จึงเกิดความรุ่มร้อนขึ้นในกาย เพราะความร้อนรุ่มนั้น ภิกษุเหล่านั้น จึงเกิดโลหิตร้อน ๆ ทะลักออกจากปาก

พระเจ้ามิลินท์ ถ้าอย่างนั้นนะ พระคุณเจ้านาคเสน ภิกษุเหล่านั้นเกิดมีโลหิตร้อน ๆ ทะลักออกจากปาก เพราะการกระทำของพระตถาคต ในเรื่องนั้น พระตถาคตนั่นแหละที่เป็นผู้ทรงจัดแจงให้ภิกษุเหล่านั้น พินาศ พระคุณเจ้านาคเสน ภิกษุเหล่านั้นเกิดมีโลหิตร้อน ๆ ทะลักออกจากปาก เพราะการกระทำของพระตถาคต ในเรื่องนั้น พระตถาคตนั่นแหละที่ทรงจัดแจงให้ภิกษุเหล่านั้นพินาศ พระคุณเจ้านาคเสน เปรียบเหมือนว่า งูตัวหนึ่ง เลื้อยเข้าไปในจอมปลวก ต่อมามีบุรุษผู้หนึ่งต้องการผงคลีดิน จึงทุบจอมปลวกโกยเอาผงคลีดินไป เพราะการที่บุรุษผู้นั้นโกยเอาผงคลีดินไป ก็ไปถมเอารูงูเข้า งูตัวนั้น เมื่อหายใจไม่ได้ในที่นั้นก็ตาย พระคุณเจ้า งูตัวนั้นถึงแก่ความตายเพราะการกระทำของบุรุษผู้นั้น มิใช่หรือ ?”

พระนาคเสน ใช่ มหาบพิตร

พระเจ้ามิลินท์ พระคุณเจ้านาคเสน อุปมาฉันใด อุปมัยก็ฉันนั้น ในเรื่องนั้น พระตถาคตนั่นแหละ ทรงเป็นผู้จัดแจงให้ภิกษุเหล่านั้นพินาศ

พระนาคเสน ขอถวายพระพร มหาบพิตร พระตถาคตเมื่อทรงแสดงธรรม ย่อมไม่ทรงกระทำความยินดี ยินร้าย ทรงเป็นผู้พ้นจากความยินดียินร้ายแสดงธรรม เมื่อทรงแสดงธรรมไปโดยอาการอย่างนี้ ในบรรดาภิกษุเหล่านั้น ภิกษุเหล่าใดเป็นผู้ปฏิบัติชอบ ภิกษุเหล่านั้น ย่อมบรรลุ ส่วนว่า ภิกษุเหล่าใดเป็นผู้ปฏิบัติมิชอบ ภิกษุเหล่านั้นย่อมพลาดตกไป

ขอถวายพระพร เมื่อบุรุษคนหนึ่ง เขย่าต้นมะม่วงก็ดี ต้นหว้าก็ดี ต้นมะขามก็ดี ในบรรดาผลไม้เหล่านั้น ผลเหล่าใดมั่นคง มีขั้วแข็งแรง ผลไม้เหล่านั้นก็ยังคงติดอยู่ที่ต้นนั้น ไม่ตกหล่น ในบรรดาผลไม้เหล่านั้น ผลเหล่าใดมีโคนก้านเน่า มีขั้วอ่อนแอ ผลไม้เหล่านั้น ย่อมตกหล่น ฉันใด ขอถวายพระพร พระตถาคตเมื่อทรงแสดงธรรม ย่อมไม่ทรงกระทำความยินดียินร้าย ทรงเป็นผู้พ้นจากความยินดียินร้ายแสดงธรรม เมื่อทรงแสดงธรรมอยู่โดยอาการอย่างนี้ ในบรรดาภิกษุเหล่านั้น ภิกษุเหล่าใด เป็นผู้ปฏิบัติชอบ ภิกษุเหล่านั้น ย่อมบรรลุ ส่วนภิกษุเหล่าใดเป็นผู้ปฏิบัติมิชอบ ภิกษุเหล่านั้น ย่อมพลาดตกไป ฉันนั้นเหมือนกัน

ขอถวายพระพร อีกอย่างหนึ่ง เปรียบเหมือนว่า ชาวนา ต้องการปลูกข้าว จึงไถนา เมื่อชาวนาผู้นั้นกำลังไถนาอยู่ ต้นหญ้าหลายแสนต้นก็ตายไป ฉันใด ขอถวายพระพร พระตถาคตเมื่อจะทรงโปรดสัตว์ทั้งหลาย ผู้มีใจสุกงอม (มีอินทรีย์แก่หง่อม) ให้ได้ตรัสรู้ ก็ทรงเป็นผู้พ้นจากความยินดียินร้าย แสดงธรรม เมื่อทรงแสดงธรรมโดยอาการอย่างนี้ ในบรรดาภิกษุเหล่านั้น ภิกษุเหล่าใดเป็นผู้ปฏิบัติชอบ ภิกษุเหล่านั้นย่อมบรรลุ ส่วนว่า ภิกษุเหล่าใดเป็นผู้ปฏิบัติผิด ภิกษุเหล่านั้น ก็ย่อมตายไปเหมือนหญ้า ฉันนั้นเหมือนกัน

ขอถวายพระพร อีกอย่างหนึ่ง เปรียบเหมือนว่า คนทั้งหลายย่อมใช้แป้นยนต์บีบอ้อย เพราะเหตุแห่งรส เมื่อคนเหล่านั้นกำลังบีบอ้อยไป ก็ไปบีบเอาหมู่หนอนที่ไต่อยู่บนหน้าแป้นยนต์ ฉันใด ขอถวายพระพร พระตถาคตเมื่อจะทรงโปรดสัตว์ทั้งหลายผู้มีใจสุกงอม (มีอินทรีย์แก่กล้า) ให้ได้ตรัสรู้ ก็ทรงใช้แป้นยนต์ คือ ธรรมเทศนาบีบคั้นเอาฉะนั้น ในบรรดาภิกษุเหล่านั้น ภิกษุเหล่าใดเป็นผู้ปฏิบัติผิด ภิกษุเหล่านั้น ก็ย่อมตายไปเหมือนหมู่หนอน ฉันนั้นเหมือนกัน

พระเจ้ามิลินท์ พระคุณเจ้านาคเสน ภิกษุเหล่านั้นพลาดตกไป เพราะธรรมเทศนานั้นมิใช่หรือ ?”

พระนาคเสน ขอถวายพระพร เปรียบเหมือนว่า ช่างถาก เมื่อจะถากไม้ ย่อมทำไม้ให้ตรง ให้เกลี้ยงเกลาได้ (ทั้งนั้น) หรือ ?”

 

พระเจ้ามิลินท์ หามิได้ พระคุณเจ้า ช่างถากจะคัดเอาส่วนที่เป็นโทษออกไปแล้วจึงจะทำไม้ให้ตรง ให้เกลี้ยงเกลาได้

พระนาคเสน ขอถวายพระพร อุปมาฉันใด อุปมัยก็ฉันนั้นเหมือนกัน พระตถาคตเมื่อจะทรงรักษาบริษัท ไม่ทรงอาจทำบริษัทผู้ไม่สามารถตรัสรู้ให้ตรัสรู้ได้ แต่ว่าจะทรงคัดสัตว์ผู้ปฏิบัติชอบทั้งหมดออกไป โปรดแต่สัตว์ผู้สามารถจะบรรลุได้เท่านั้นให้ได้รู้ ขอถวายพระพร ภิกษุผู้ปฏิบัติผิดเหล่านั้น ย่อมพลาดตกไปเพราะการกระทำของตน

ขอถวายพระพร ต้นกล้วย ไม้ไผ่ แม่ม้าอัสดร ย่อมตายเพราะลูกที่เกิดในตนเอง ฉันใด ภิกษุผู้ปฏิบัติผิดเหล่านั้น ย่อมพลาดตกไปเพราะการกระทำของตน ฉันนั้นเหมือนกัน

ขอถวายพระพร พวกโจรถูกควักลูกตา ถูกเสียบด้วยหลาว ถูกตัดศีรษะเพราะการกระทำของตน ฉันใด ขอถวายพระพร ภิกษุผู้ปฏิบัติผิดเหล่านั้น ก็ถูกฆ่าคือพลาดตกไป เพราะการกระทำของตน ฉันนั้นเหมือนกัน ขอถวายพระพร ภิกษุประมาณ ๖๐ รูปเหล่านั้น เกิดมีโลหิตร้อน ๆ ทะลักออกจากปาก ข้อที่ภิกษุเหล่านั้นมีโลหิตทะลักออกจากปากนั้น หาเป็นเพราะการกระทำของพระผู้มีพระภาคไม่ หาเป็นเพราะการกระทำของคนอื่นไม่ แต่ทว่า เป็นเพราะการกระทำของตนเองนั่นเอง

ขอถวายพระพร เปรียบเหมือนบุรุษคนหนึ่งให้ยาอมตะแก่ทุกคน คนเหล่านั้นกินยาอมตะแล้ว ก็เป็นผู้ไม่มีโรค มีอายุยืน พ้นจากเสนียดจัญไรทั้งปวง ต่อมา มีบุรุษอีกคนหนึ่งดื่มยาอมตะนั้น โดยผิดวิธีการ แล้วถึงแก่ความตาย ขอถวายพระพร บุรุษผู้ให้ยาอมตะนั้น พึงได้บาปอะไร ๆ เพราะเหตุที่ได้ให้ยาอมตะแก่คนทั้งหลายนั้น บ้างหรือหนอ ?”

พระเจ้ามิลินท์ หามิได้ พระคุณเจ้า

พระนาคเสน ขอถวายพระพร อุปมาฉันใด อุปมัยก็ฉันนั้นเหมือนกัน พระตถาคตก็ทรงมอบธรรมทานเป็นยาอมตะแก่พวกเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายในหมื่นโลกธาตุ สัตว์ทั้งหลายเหล่าใดเป็นภัพพสัตว์ (สัตว์ผู้สมควร) สัตว์เหล่านั้นก็ย่อมบรรลุธรรมได้ ส่วนสัตว์เหล่าใดเป็นผู้อาภัพ สัตว์เหล่านั้นก็ย่อมถูกธรรมเทศนาฆ่าตาย คือ พลาดตกไปจากพระธรรมเทศนานั้น. ขอถวายพระพร ธรรมดาว่า อาหารย่อมรักษาชีวิตของสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงไว้แต่สัตว์บางพวกบริโภคอาหารนั้น แล้วก็ตายเพราะโรคลงท้อง ขอถวายพระพร บุรุษผู้ให้อาหารแก่เขานั้น พึงได้บาปอะไร เพราะเหตุที่ได้อาหารนั้นบ้างหรือ ?”

พระเจ้ามิลินท์ หามิได้ พระคุณเจ้า

พระนาคเสน ขอถวายพระพร อุปมาฉันใด อุปมัยก็ฉันนั้นเหมือนกัน พระตถาคตก็ทรงมอบอาหารอมตะแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายในหมื่นโลกธาตุ สัตว์เหล่าใดเป็นภัพพสัตว์ สัตว์เหล่านั้นก็ย่อมบรรลุเพราะอาหารอมตะคือพระธรรมเทศนา ส่วนว่า สัตว์เหล่าใดเป็นผู้อาภัพ สัตว์เหล่านั้นก็ถูกอาหารอมตะคือพระธรรมเทศนานั้น ทำให้ตายคือพลาดตกไปจากอาหารอมตะคือพระธรรมเทศนานั้น

พระเจ้ามิลินท์ สาธุ พระคุณเจ้านาคเสน ข้าพเจ้าขอยอมรับคำพูดตามที่ท่านกล่าวมานี้

สัพพสัตตหิตผรณปัญหา

ที่ ๒ จบ

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น